เมนู

กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-


[1114] กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตต-
สังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลซึ่งเกิดอยู่ในรูปาวจร
ภูมิ และอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึง
พร้อมด้วยปรินิพพานจิตในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่
เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่เคยเกิด และจิตตสังขาร
ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กาย-
สังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในกามาวจรภูมิ จิตตสังขาร
ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารเคยเกิดแก่บุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในรูปาวจรภูมิ
ในอรูปวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขาร
ไม่ใช่จักเกิด และกายสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ

วจีสังขารมูล


วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-


[1115] วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตต-
สังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ในภูมิที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในภูมิที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี
บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิด และจิตต-
สังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร
ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในภูมิที่มีวิตกและมีวิจาร จิตต-
สังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารเคยเกิดแก่
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตในภูมิที่
ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตต-